Archive for มกราคม 2017
0
การนำไปประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน
การนำไปประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน
ที่
|
ทฤษฏี
|
แนวคิด
|
กุญแจสำคัญ
|
ลำดับขั้น
|
ประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน
|
1
|
ฟรอยด์
|
บุคลิกภาพ
|
ฟรอยด์ เชื่อว่าบุคลิกภาพส่วนใหญ่ของมนุษย์ที่แตกต่างกัน เป็นผลมาจากประสบการณ์ของแต่ละคนในแต่ละช่วงวัย ขึ้นอยู่กับแต่ละคน การแก้ปัญหาความขัดแย้งของในแต่ละช่วงวัยอย่างไร โดยในช่วงอายุ 0-6 ปีแรกของชีวิตจะมีความสำคัญมาก
|
5 ขั้น
|
ต้องรู้วัยพัฒนาการของเด็ก ต้องรู้ว่าวัยไหนควรจัดการเรียนแบบไหนเมื่อรู้แล้วเราสามารถวางแผนการสอนได้ถูกต้อง และเมื่อมีปัญหาก็สามารถที่จะแก้ไขได้ทันถ่วงที
|
2
|
อีริคสัน
|
เรียนรู้ตลอดชีวิต
|
พัฒนาการเริ่มตั้งแต่อายุ 0 ปี จนถึงวัยชรา(ตลอดชีวิต) และทุกๆการพัฒนานั้นจะขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมต่างๆที่พบเจอในสังคม ส่วนวัยผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในวัยเด็ก
|
8 ขั้น
|
ไม่ควรที่จะคำนึงถึงประสบการณ์ของเด็กเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงขั้นพัฒนาการของเด็กด้วย ซึ่งสิ่งนี้ จะช่วยให้ครูเข้าใจเด็กมากยิ่งขึ้น และสามารถวางแผนการสอนได้อย่างถูกต้อง
|
3
|
โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์ส
|
พัฒนาการตามวัย
|
พัฒนาการของคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่สังคมและวัฒนธรรมก็ยังเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาของแต่ละคน
|
6 ขั้น
|
ครูสามารถที่จะจัดรูปแบบการเรียนการสอน โดยให้ผู้เรียนเรียนรู้จากสิ่งที่เป็นรูปธรรม เรียนรู้จากของจริงให้มากที่สุด เช่น ถ้าสอนวิชาประวัติศาสตร ก็จะพาผู้เรียนไปทัศนศึกษาสถานที่ประวัติศาสตร์ต่างๆ
|
4
|
โคลเบิร์ก
|
พัฒนาการทางจริยธรรม
|
รู้การผิดชอบชั่วดีของมนุษย์
|
6 ขั้น
|
1.ครูสามารถที่จะควบคุมผู้เรียน โดยการกฎเกณฑ์ต่างๆ ในชั้นเรียน
2.ครูจะสามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนมีเหตุผลในการตัดสินใจ
|
5
|
เปียเจท์
|
ความคิดและจริยธรรม
|
ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กมีกี่ขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไร ตั้งอยู่บนรากฐานของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
|
4 ขั้น
|
3. ครูสามารถที่จะจัดสื่อในการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียน
4.ครูสามารถฝึกการทำงานเป็นกลุ่มของผู้เรียน
5.ครูจะสามารถให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน
|
6
|
บรูเนอร์
|
พัฒนาการทางด้านความคิด
|
การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางสังคมที่ผู้เรียนจะต้องลงมือปฏิบัติ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ โดยมีพื้นฐานอยู่บนประสบการณ์หรือองค์ความรู้เดิม
|
3 ขั้น
|
ครูสามารถที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เรียนโดยสามารถคำนึงถึงความเหมาะสมของผู้เรียนแต่ละคน
|
ทฤษฏีการเรียนรู้
ที่
|
ทฤษฏี
|
แนวคิด
|
กุญแจสำคัญ
|
ตัวอย่าง การประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน
|
1.
|
พาฟลอฟ
|
การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
|
Type S
สิ่งเร้าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม
|
จินไม่ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เนื่องจากจินไม่ชอบคุณครูที่สอนเพราะคุณครูถามคำถามโดยให้จินเป็นคนตอบเสมอ พอจินตอบคำถามไม่ได้ ครูก็จะดุจิน จึงทำให้จินไม่ชอบวิชานี้และไม่เกิดการเรียนรู้
|
2.
|
วัตสัน
|
การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
|
Type S
|
เจแปนชอบเล่นฝนมากๆแต่อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่เจแปนกำลังเล่นฝนก็มีเสียงฟ้าร้องดังมากๆ เจแปนตกใจและกลัวมาก หลังจากนั้นเจแปนก็กลัวเสียงฟ้าร้องมาตลอด เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องเจแปนก็จะร้องไห้ไม่หยุด ต่อมาเจแปนได้นั่งทานข้าวกับแม่และได้ยินเสียงฟ้าร้อง เจแปนกอดแม่ทันที แม่ของเจแปนคอยปลอบ ทำแบบนี้ 2 สัปดาห์ เจแปนก็ไม่กลัวเสียงฟ้าร้องอีกเลย
|
3.
|
สกินเนอร์
|
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบลงมือทำ
|
การกระทำใดๆถ้าได้รับการเสริมแรงจะมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ส่วนการกระทำที่ไม่เสริมแรงมีแนวโน้มที่การกระทำนั้นๆจะลดลงและค่อยๆหายไป
|
ครูแก้วตาให้เด็กๆวาดรูปลงไปในกระดาษ หากใครวาดได้สวย จะได้คะแนน 3 ดาวเป็นรางวัล แต่ห้องคุณครูปลาให้เด็กๆวาดรูปเหมือนกัน แต่ไม่มีรางวัลให้ เด็กๆห้องครูปลาจึงไม่ค่อยจะขะหมักเขม้นเหมือนห้องคุณครูแก้วตา
|
4.
|
ธอร์นไดค์
|
ทฤษฎีการสัมพันธ์เชื่อมโยง
|
การลองผิดลองถูก
|
คุณครูให้ดาจิมแกะขนมที่อยู่ในปี๊บ ถ้าแกะได้จะได้กินขนม ดาจิมจึงเริ่มแกะฝาปี๊บด้วยมือเปล่า ปรากฏว่าไม่ออก ดาจิมจึงไม่หยิบไม่บรรทัดพลาสติกมาเพื่อจะแกะฝาออก ปรากฏว่าไม้บรรทัดหัก ดาจิมจึงหาอะไรที่แข็งแรงกว่าโดยหยิบช้อนมาแกะฝาปรากฏว่าฝาถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย ดาจิมจึงได้กินขนม
|
5.
|
แบนดูรา
|
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมพุทธิปัญญา
|
การเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมากเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือการเลียนแบบ
|
คุณครูกีต้าให้เด็กๆเต้นเพลง เรามาแปลงฟัน โดยคุณครูจะเต้นให้เด็กๆดู และให้เด็กๆเต้นตาม ในตอนแรกเด็กหญิงโซดาเต้นตามครูไม่ได้ เธอยืนมองคุณครูเต้นอยู่2 รอบ และเธอก็เริ่มเต้นตามครูได้ ต่อมาเด็กหญิงโซดาเต้นตามคุณครูอีก5 รอบ เธอก็สามารถเต้นตามครูได้ถูกจนจบเพลง
|
6.
|
เกสตัลท์
|
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มปัญญานิยม
|
การรับรู้ (perception) และนำไปสู่การหยั่งเห็น (Insight)
|
กิมจิกำลังเดินกลับบ้านแต่เมื่อเดินถึงสะพานปรากฏว่าสะพานขาด เป็นรู้กว้าง 2 เมตร กิมจิจึงมองหาไม้ที่กว้างพอจะเดินได้มาพาดแล้วเดินข้ามไปได้
|
By : Unknown
บทนำ
0
จิตวิทยาสําหรับครู เปนศาสตรที่ศึกษาเพื่อใหผูสอนมีความรูความเขาใจความแตกตางและความตองการของผูเรียน ในอันที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผูเรียนไปสูแนวทางอันพึงประสงคได โดยผูสอนควรมีความรูความเขาใจ ดังนี้
ความพรอมของผูเรียน
1. ความพรอมทางดานรางกาย ซึ่งหมายถึงความพรอมอันเกิดจากความเปนปกติทางรางกาย เชน ไมอดนอน ไมหิวโหย ไมเจ็บปวย ไมรอนหรือหนาวจนเกินไป เปนตน
2. ความพรอมทางดานจิตใจและดานอารมณ เรื่องนี้ครู อาจารยมีความเกี่ยวของมากขึ้น แตอีกสวนหนึ่งก็เปนความรับผิดชอบของนิสิตนักศึกษาอยูเหมือนเดิม สวนที่เกิดมากจากนิสิตนักศึกษาเอง
3. ความพรอมทางดานสติปญญา หมายถึงการมีพื้นฐานทางวิชาการเพียงพอที่จะเรียนรูหรือรับรูสิ่งใหม ๆ ทางวิชาการ
หลักการสําคัญของการเรียนรู
1.ผูเรียนควรจะมีสวนรวมในการเรียนรูอยางจริงจัง (Active Participation)
2.ผูเรียนควรจะไดเรียนรูทีละขั้นทีละตอนจากงายไปสูยากและจากไมซับซอนไปสูรูปที่ซับซอน (Gradual approximation)
3.ใหนักเรียนไดรับขอมูลยอนกลับที่เหมาะสมและไมเนิ่นนานจนเกินไป (Immediate feedback)
4. การเสริมแรงหรือใหกําลังใจที่เหมาะสม (Appropriate Reinforcement)
จิตวิทยาสําหรับครู เปนศาสตรที่ศึกษาเพื่อใหผูสอนมีความรูความเขาใจความแตกตางและความตองการของผูเรียน ในอันที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผูเรียนไปสูแนวทางอันพึงประสงคได โดยผูสอนควรมีความรูความเขาใจ ดังนี้
ความพรอมของผูเรียน
1. ความพรอมทางดานรางกาย ซึ่งหมายถึงความพรอมอันเกิดจากความเปนปกติทางรางกาย เชน ไมอดนอน ไมหิวโหย ไมเจ็บปวย ไมรอนหรือหนาวจนเกินไป เปนตน
2. ความพรอมทางดานจิตใจและดานอารมณ เรื่องนี้ครู อาจารยมีความเกี่ยวของมากขึ้น แตอีกสวนหนึ่งก็เปนความรับผิดชอบของนิสิตนักศึกษาอยูเหมือนเดิม สวนที่เกิดมากจากนิสิตนักศึกษาเอง
3. ความพรอมทางดานสติปญญา หมายถึงการมีพื้นฐานทางวิชาการเพียงพอที่จะเรียนรูหรือรับรูสิ่งใหม ๆ ทางวิชาการ
หลักการสําคัญของการเรียนรู
1.ผูเรียนควรจะมีสวนรวมในการเรียนรูอยางจริงจัง (Active Participation)
2.ผูเรียนควรจะไดเรียนรูทีละขั้นทีละตอนจากงายไปสูยากและจากไมซับซอนไปสูรูปที่ซับซอน (Gradual approximation)
3.ใหนักเรียนไดรับขอมูลยอนกลับที่เหมาะสมและไมเนิ่นนานจนเกินไป (Immediate feedback)
4. การเสริมแรงหรือใหกําลังใจที่เหมาะสม (Appropriate Reinforcement)
By : Unknown